วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รวมเรื่องเศร้า-ซึ้ง-ประทับใจ ในรอบปี 2010

ในวันหนึ่ง ๆ เรามักมีอารมณ์แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา... และ 1 ปี ที่ผ่านมา ก็มีเรื่องราวมากมายเข้ามาทักทายชีวิตให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตา โดยบ่อยครั้งเราได้รับรู้เรื่องราวของบุคคลที่เป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนของ พลังใจ แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักพวกเขาเหล่านั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเส้นทางชีวิตของพวกเขาล้วนสร้างความประทับใจ และก่อกำเนิดมุมคิดดี ๆ อยู่เสมอ และวันนี้กระปุกดอทคอม จึงขอรวบรวมเรื่องราวของบุคคลเหล่านั้น มานำเสนอส่งท้ายปี 2010 กันอีกครั้งค่ะ


อภิรักต์ แซ่ฮ้อ

อภิรักต์ แซ่ฮ้อ : คนจนผู้ยิ่งใหญ่

ผู้คนเกือบทั้งประเทศได้อมยิ้มกับความน่ารัก ซื่อ ๆ ของเขาผ่านทางรายการ ตีสิบ หนุ่มคนนี้อาจเป็นคนธรรมดา ๆ ที่แทบไม่มีความน่าสนใจในตัวเองเลย ด้วยภาพลักษณ์ของคนเก็บขยะ แต่งตัวมอซอ หาเช้ากินค่ำ มีชีวิตซ้ำ ๆ ในรูปแบบเดิม ๆ ทุกวัน หากแต่ชีวิตของเขากลับมีเรื่องราวมากกว่าที่มองเห็น

อภิรักต์ ดำเนินอาชีพเก็บขยะของเขามามากกว่า 16 ปีแล้ว เช่นเดียวกับการที่เขาแบ่งเงิน 20 บาท จากรายได้ต่อวันประมาณ 50-100 บาท นำไปฝากธนาคาร เพื่อสะสมทีละเล็กทีละน้อย เป็นค่าผ่าตัดหัวใจให้กับแม่ที่ป่วยเป็นโรคหลายโรค ทั้งความดัน เบาหวาน เก๊า และโรคหัวใจ

จากความมุมานะของ อภิรักต์ ในการเข็นรถขยะหาเงินทุกบาททุกสตางค์ให้แม่ ทำให้เขาได้รับความรักจากสังคม และได้รับการคัดเลือกเป็นลูกกตัญญู ประจำปี 2553 นอกจากนี้ อภิรักต์ กำลังจะมีผลงานการแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกของชีวิต ในเรื่อง "ยายสั่งมาใหญ่" จากผลงานการกำกับของ นุ้ย เชิญยิ้ม อีกด้วย

หวานแห่งปี!! สาวบุกราบ 11 ทวงสัญญาแต่งงาน

ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ สำหรับเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่ตกลงกันว่าจะเข้าพิธีแต่งงาน เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2553 แต่ด้วยภาระหน้าที่ของแฟนหนุ่ม ส.อ.ณัฐพงษ์ ชินวงศ์ เพิ่งกลับจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และต้องมารับมือกับการชุมนุมคนเสื้อแดงกลางกรุงเทพฯ ทำให้ว่าที่เจ้าสาวหวั่นใจว่า งานแต่งงานของพวกเขาอาจไม่เกิดขึ้นในกำหนดวันและเวลาเดิมได้

ด้วยเหตุนี้ คุณกาญจนา ศรีสวยสกุล จึงตัดสินใจติดต่อไปยังรายการ "ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์" และทางทีมงานก็ช่วยให้เกิดภาพความประทับใจขึ้น ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) ท่ามกลางสักขีพยาน เป็นผู้บังคับบัญชา และเพื่อนทหารกว่า 700 นาย ก่อนที่ทั้งคู่จะจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ตามกำหนด หลังจากที่พาความรักเดินทางด้วยกันมา 9 ปี และทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนแปลง


มาร์ค สุดยอดเด็กกตัญญู

มาร์ค - ปาน สุดยอดเด็กกตัญญู

สองเด็กหญิง-ชายต่างครอบครัวในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ชีวิตของพวกเขาไม่ได้สนุกสนานอย่างเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่กลับมีความเด่นชัดในความกตัญญูอย่างยากที่จะเห็นได้ในสังคมเมืองปัจจุบัน

ในทุก ๆ วันของ มาร์ค สรวิศ ไชยสัจ เด็กหนุ่มวัย 14 ปี แห่งบ้านดงพลอง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เขาต้องทำหน้าที่เป็นพยาบาลคอยดูแลป้อนอาหารให้ ปู่ ที่ล้มป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ และทำหน้าที่เป็นหมอคอยฉีดอินซูลินให้ ย่า ป่วยโรคเบาหวานขั้นรุนแรง ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ว่างเว้นจากการเรียนหนังสือและดูแลปู่กับย่า เด็กชายคนนี้จะไปรับจ้างทำงานร้านเชื่อมเหล็ก เพื่อแลกเงินวันละ 140 บาท มาประทัง 3 ชีวิตให้อยู่รอด ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกเหนื่อย มาร์ค จะบอกตัวเองเสมอว่า ปู่และย่า ที่เขาเรียกว่า พ่อและแม่ ยังดูแลเขามาตั้งแต่เล็กได้ ดังนั้น นี่คือเวลาที่ต้องตอบแทนบุญคุณพวกท่านบ้าง

ขณะที่ น้องปาน - ณมล เทพโสภา เด็กหญิงวัย 12 ปี ใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เธอต้องทำหน้าที่เป็นพยาบาลตัวน้อย คอยเฝ้าดูแลพ่อที่ล้มป่วยอัมพาตมาตั้งแต่เธออายุได้เพียง 6 ขวบ หลังจากผู้เป็นแม่ทิ้งเธอไปขณะที่พ่อของปานเริ่มป่วย ทำให้ ปาน ต้องเป็นผู้จัดการดูแลทุกอย่างในบ้าน เป็นทั้งแม่บ้าน เป็นพยาบาล และหากมีเวลาว่าง ปาน ก็จะช่วยพ่อทำเปล หารายได้เสริม ซึ่งแม้ว่าภาระที่เด็กหญิงคนนี้ต้องทำทุก ๆ วัน จะหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่เธอก็ไม่เคยปริปากบ่น ทั้งยังบอกด้วยว่า "เป็นบุญของเธอที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อ"


วันที่แม่กลับบ้าน รายการ คน ค้น ฅน
ต้อม เด็กชายยอดกตัญญู ดูแลแม่ป่วยเอดส์

ต้อม เด็กชายยอดกตัญญู ดูแลแม่ป่วยเอดส์

เด็กที่ไม่ได้เติบโตในครอบครัวพร้อมหน้า พ่อ-แม่-ลูก ย่อมใฝ่ฝันถึงวันที่จะได้อยู่กับพ่อหรือแม่ของเขาบ้าง เช่นเดียวกับ ต้อม เด็กชายแห่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย พ่อแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่อายุได้เพียง 6 ขวบ ต้อมเคยยินดีที่แม่กลับมาหาบ้าง แม้จะเติมเต็มความทรงจำและความผูกพันระหว่างต้อมกับแม่ได้ไม่มากนัก ทว่าเมื่อแม่กลับมาอยู่กับเขาอย่างถาวร กลับเป็นการเปลี่ยนชีวิตของ "ต้อม" ไปอย่างสิ้นเชิง

แม่ของต้อม ในวัย 33 ปี กลับมาด้วยสภาพคนป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้าย ร่างกายผ่ายผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเขยื้อนแขนขาด้วยตัวเอง และทานได้เพียงน้ำเพียงเล็กน้อยต่อวันเท่านั้น ทำให้ ต้อม ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียว ต้องทิ้งชีวิตแบบเดิมที่เคยเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ มารับภาระอันหนักอึ้งในการดูแลแม่ แม้ว่าเขาจะต้องร้องไห้กับโชคชะตาชีวิตมากสักเพียงใด แต่ก็ไม่เคยคิดทิ้งหน้าที่ของลูกที่ดีเลย

น้องวิว คนค้นคน

น้องวิว เด็กหญิงที่เติบโตในโลกเงียบ



น้องวิว เด็กหญิงที่เติบโตในโลกเงียบ

โลกเงียบของน้องวิว ไม่ได้หมายความว่า เธอหูหนวกหรือเป็นใบ้ หากแต่เด็กหญิงคนนี้ต้องเติบโตขึ้นมาภายในห้องเช่าสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แคบ ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดแพร่ โดยที่แทบจะไม่เคยเห็นโลกภายนอกว่าเป็นไปอย่างไร ไม่เคยรู้จักผู้คนที่นอกเหนือจากพ่อแม่ของตัวเอง ไม่เคยมีเพื่อน ไม่ได้รับการศึกษา...โลกของเธอไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น

เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่น้องวิวอายุได้เพียง 2 ขวบ เธอถูกขังไว้ในห้องขณะที่พ่อและแม่ออกไปทำงานหาเงิน โดยมีตุ๊กตาเพียงตัวเดียวเป็นเพื่อนคนสำคัญ ครั้นเมื่อโตพอจะช่วยเหลือตัวเองได้ น้องวิว ก็มีกิจกรรมคลายเหงาอย่างการซักผ้า ล้างจาน และทำงานบ้านอื่น ๆ

รายได้วันละ 100 บาท จากอาชีพแม่บ้านของแม่ ผู้ซึ่งไม่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ รวมถึงสติปัญญา รวมกับอีก 200 บาท อันได้จากการใช้แรงงานของพ่อ ซึ่งเป็นรายได้ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ทำให้น้องวิวได้รับรสชาติอาหารชั้นดีอย่าง "ไข่เจียว" ไม่บ่อยนัก แต่ภายหลังจากที่เรื่องราวของครอบครัวนี้ถูกนำเสนอผ่านรายการคนค้นฅน ก็มีคนจำนวนมากแสดงความประสงค์เข้าช่วยเหลือ ...นั่นแสดงให้เห็นว่า น้ำใจคนไทย ยังคงสวยงาม และอาจช่วยพลิกชะตาชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนี้




น้องกัน - น้องกี้ ผู้ป่วยโรคพันธุกรรมบกพร่อง




กัน และกี้ เด็กชายสองพี่น้องจาก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พวกเขาป่วยด้วยโรคพันธุกรรมบกพร่อง หรือ โรคพันธุกรรมเมตาบอลิก ซึ่งเป็นความผิดพลาดตั้งแต่กำเนิด และไม่มีทางรักษาให้หายได้ นอกจากต้องรอช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต พวกเขาสองพี่น้องดูจะเข้าใจกับโรคที่กำลังรุมเร้า โดยเฉพาะ กัน เด็กชายผู้พี่วัย 18 ปี ที่ยอมรับกับสภาพของตัวเอง และเฝ้ารอวันสุดท้ายของชีวิตอยู่ทุกลมหายใจ

ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ว่า กัน จะไม่เคยฟูมฟายกับอาการป่วยของตัวเอง เขารับไม่ได้อยู่เป็นปี จากที่เคยเดินเหินได้ปกติ มีวัยเด็กอันสนุกสนานกับน้องกี้และเพื่อน ๆ แต่เมื่ออาการป่วยเริ่มสำแดงฤทธิ์จนเขาไม่สามารถเดินหรือขยับร่างกายของตัว เองได้อีกต่อไปแล้ว วิทยุและซีดีธรรมะจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสงบให้กับชีวิตที่ รุ่มร้อนทั้งกายใจ

กระทั่งวาระสุดท้ายมาถึง น้องกัน ได้ไปร่วมงานเปิดมูลนิธิช่วยเด็กป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิก ที่เจ้าตัวปรารถนาตั้งขึ้น ก่อนจะอาการทรุดหนักและจากไปในวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 ซึ่งผู้เป็นแม่บอกว่า ขอให้น้องกันไปดี ไปในที่ที่ปรารถนาอย่างที่เขาพูดเสมอว่า อยากไปเกิดใหม่เป็นคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ ขณะที่ น้องกี้ น้องชายวัย 13 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า... "พี่กัน ตายไปแล้วขึ้นสวรรค์ หายามารักษากี้ให้หายด้วยนะ"

จะเห็นได้ว่า...ท่ามกลางความทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้ครอบครัวนี้เรียนรู้ที่จะค้นหาความสุขบนโลกใบนี้ภายใต้เงื่อนไขที่มี อยู่จำกัด



น้องโมเน่ต์

น้องโมเน่ต์





เรื่องราวของหนูน้อยผู้โชคร้าย เกิดมาไม่มีแขนทั้ง 2 ข้าง ถูกบอกเล่าโดยผู้เป็นพ่อผ่านทางเว็บไซต์ pantip.com เขาและภรรยาไม่คาดคิดเลยว่า ลูกน้อยในครรภ์ที่ไม่เคยแสดงอาการผิดปกติใด ๆ จะคลอดออกมาด้วยน้ำหนักเพียง 1,500 กรัม และถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูทันทีพร้อมเครื่องช่วยหายใจ ก่อนจะได้รับคำตอบว่า น้องโมเน่ต์ เป็นโรค CDLS (Cornelia de Lange Syndrome) ซึ่งเกิดจากการจับคู่ผิดของโครโมโซม ทำให้เด็กหยุดการเจริญเติบโตในท้องมารดา หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว โดยเด็กที่เกิดมาจะมีอาการปัญญาอ่อน เจริญเติบโตช้า และอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาวะแทรกซ้อน ซึ่งโรคนี้มีโอกาสพบได้ 1 ต่อ 10,000-30,000 คนเท่านั้น

แม้จะเป็นความจริงที่แสนเจ็บปวด แต่ผู้เป็นพ่อและแม่พยายามทำใจยอมรับให้ได้ พวกเขาต้องพาลูกน้อยเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง เพื่อรักษาชีวิตของน้องโมเน่ต์ กระทั่งตัดสินใจว่า จะไม่ให้แพทย์เจาะ หรือผ่าตัดอะไรที่จะทำให้ลูกสาวเจ็บต่อไปอีกแล้ว พร้อมกับขอให้แพทย์ไม่ต้องยื้อชีวิตหนูน้อยไว้ หากเกิดอาการอะไรหนัก ๆ ที่จำเป็นต้องปั๊มหัวใจ

ด้วยอาการป่วยของน้องโมเน่ต์ ทำให้เธอต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่าเด็กเล็กทั่วไป แต่แม้จะเหนื่อยยากเพียงใด ครอบครัวนี้ก็สัญญาว่าจะดูแลน้องโมเน่ต์ อย่างดีที่สุด และร่วมต่อสู้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งไม่เพียงกำลังใจอันเข้มแข็งในครอบครัว พวกเขายังได้รับแรงใจมากมายจากชาวพันทิปที่ร่วมส่งกำลังใจ และสิ่งของจำเป็นมากมายไปให้น้องโมเน่ต์ ...และเราขอร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ...สู้ต่อไปนะ น้องโมเน่ต์^^




แบรท - ไมเคิล วูล์ฟ



เป็นข่าวน่าเศร้าเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แบรท วูล์ฟ หนุ่มชาวมะกัน ร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ และพยายามปั๊มหัวใจ "ไมเคิล" ลูกชายวัย 4 ขวบ แต่ก็ไม่เป็นผล หลังพลั้งเผลอปล่อยลูกเล่นใกล้ระเบียง จนพลัดตกจากคอนโดมิเนียมชั้น 10 กลางเมืองพัทยา และ วูล์ฟ ก็ไม่สามารถผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปได้ 3 วัน หลังการจากไปของไมเคิล เขาตัดสินใจกินยาปลิดชีวิตตนเอง โดยทิ้งโน้ตข้อความว่า... "I love my son Michael" ผมรักลูกของผม ไมเคิล

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อาจพบกุญแจสำคัญว่าทำไม วูล์ฟ จึงเลือกทางออกด้วยวิธีการนี้... วูล์ฟ แต่งงานกับภรรยาชาวฟิลิปปินส์ มีลูกหนึ่งคน ก่อนจะหย่าร้างกัน และเขาได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูก โดยในขณะที่ไมเคิลอายุได้เกือบ 2 ขวบ วูล์ฟ ต้องพบกับฝันร้าย เมื่อพี่เลี้ยงสาววัย 15 ปี พาลูกน้อยของเขาหายไปจากบ้านเป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกมากพอที่ FBI จะให้ความร่วมมือกับตำรวจท้องที่ จนสามารถหาตัว ไมเคิล กลับมาสู่อ้อมกอดของพ่ออีกครั้ง หลังจากนั้น วูล์ฟ ก็หอบลูกมาอยู่พัทยา ก่อนจะมาพบกับจุดจบของชีวิตในที่สุด

พ่อ...แม้จะเป็นเพศที่เข้มแข็ง แต่เมื่อต้องแบกรับความรู้สึกแห่งการสูญเสียลูกอันเป็นที่รัก ที่ผู้เป็นพ่อคิดว่าตัวเองมีส่วนด้วยแล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจึงเกิดขึ้นเช่นนี้...และเราขอสดุดีกับความรักของพ่อ คนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า การฆ่าตัวตาย ก็ไม่ใช่ทางออกสุดท้ายในการแก้ปัญหาชีวิต



ลินดา พิริยะปัญญาพร
ลินดา พิริยะปัญญาพร




คุณลินดา พิริยะปัญญาพร คือผู้ป่วยลำไส้ทะลักออกมาอยู่นอกตัวตั้งแต่แรกเกิด แต่เธอกลับมีชีวิตรอดมากว่า 30 ปีแล้ว ด้วยกำลังใจจากคนในครอบครัว และการมองโลกในแง่ดี ทว่าหลายสิบปีมานี้เธอก็ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำจากอากาปวดท้อง และความเจ็บปวดซ้ำซากเช่นนี้ ทำให้คุณลินดา ตัดสินใจผ่าตัดเรียงลำไส้ แม้จะเสี่ยงต่อชีวิตสูงมาก แต่การผ่าตัดในครั้งนั้นเธอก็รอดชีวิตมาได้ แม้อาการจะไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่อาการปวดท้องจะลดน้อยลงก็เท่านั้น

จากนั้นแพทย์ แนะนำให้เธอผ่าตัดสร้างตาข่ายเทียมเพื่อยึดให้เกิดผนังหน้าท้องให้แข็งแรง ขึ้น แต่ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ คุณลินดา จำเป็นต้องผ่านการตั้งครรภ์และคลอดบุตรมาก่อน ซึ่งเธอได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนชายนักธุรกิจชาวต่างชาติเป็นผู้บริจาค น้ำเชื้อให้ และตั้งครรภ์ลูกแฝด ทว่าข่าวดีนี้มาพร้อมกับข่าวร้าย เมื่อเธอตรวจเจอมะเร็งต่อมไทรอยด์ จนสุดท้ายต้องแท้งลูกไป และผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกไปได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ในขณะที่คุณลินดากำลังรักษาตัวอยู่ เธอก็เดินหน้าสานต่อความฝันที่อยากก้าวไปเป็นช่างผมระดับโลกต่อไป ด้วยการไปศึกษาเรื่องการทำผมที่สหรัฐอเมริกา และเข้าร่วมการประกวดช่างผมระดับโลก ปี 2009 เธอต้องต่อสู้กับการกลั่นแกล้งสารพัดจากเวทีประกวด ก่อนจะได้รับรางวัลที่ 4 และรางวัล Best Perfomance Award ซึ่งแม้จะโกรธมากกับจนแทบไม่อยากได้รางวัล แต่เธอยังคงตั้งปณิธานว่า "จะเป็นที่ 1 ในเวทีโลกให้ได้ก่อนตาย" เพื่อสร้างชื่อเสียงประเทศไทยให้จงได้

มะกุด ต่ออำนาจ
มะกุด พิการแต่ตัว หัวใจยังเข้มแข็ง




แม้ว่า มะกุด ต่ออำนาจ จะเกิดมาโดยไร้แขน ไร้ขา แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อแต่อุปสรรค มะกุด ทำงานทุกอย่างทั้งถักโครเชต์ ขายผลไม้ และยังจับมือกับเพื่อนอีก 2 คนซึ่งคนหนึ่งตาบอดเลือนราง ขณะที่อีกคนร่างกายฝั่งขวาไม่มีแรง ตระเวนไปทั่ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อรับซื้อของเก่า พอเป็นรายได้ประทังเลี้ยงชีพ และหากมีเงินเหลือมากกว่า 100 บาท มะกุด ก็จะนำเงินก้อนนั้นมาให้มารดา

มะกุด บอกตัวเองเสมอว่า จะไม่ท้อถอยกับชีวิต ต้องมองโลกในแง่บวกและพยายามที่จะนำพาชีวิตของตัวเองและคนใกล้ชิดให้ก้าวไป ข้างหน้าด้วยกัน เช่นนั้นแล้วใครที่กำลังสิ้นหวัง ท้อแท้ หมดกำลังใจ ลองนำเรื่องราวของ มะกุด ไปเป็นข้อคิดเตือนสติตัวเองว่า ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมาก แต่เขาไม่เคยท้อแท้ หรือนั่งยอมแพ้กับให้กับโชคชะตาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเลย




ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก



ยายยิ้ม หญิงชราวัยใกล้ร้อย จะเดินลงจากบ้านกลางป่าเขาระยะทาง 7-8 กิโลเมตร เป็นกิจวัตรสม่ำเสมอทุกวันพระ จนเป็นภาพชินตาของชาวบ้านบ้านท่าหนอง จ.พิษณุโลก ซึ่งแม้ว่าระยะทางไกลเต็มไปด้วยหล่มโคลน ถนนเป็นร่องขรุขระ หรือฝนจะตก ฟ้าจะร้อง ยายยิ้ม ก็ไปถึงวัดไม่เคยขาด

ทุกวันนี้แม้วัยจะล่วงเลยมาถึง 83 ปี แต่ ยายยิ้ม ยืนยันว่าร่างกายยังแข็งแรงดี และก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับการที่ต้องอยู่บ้านกลางป่าเพียงลำพังมากว่า 20 ปีแล้ว และหลายครั้ง ลูกชาย 2 คน ที่คอยดูแลแม่คนนี้อยู่ห่าง ๆ จะพยายามรบเร้าให้แกไปอยู่ด้วย แต่ก็ดูเหมือนจะเอาชนะใจแม่ได้ยากยิ่ง ด้วยเหตุว่า บ้านกลางป่าของแก ทำให้ชีวิตไม่วุ่นวายจนเกินไปนัก ถึงจะต้องอดบ้างยามฝนตกลงจากเขาไม่ได้ แต่ยายยิ้ม ก็ยืนกรานว่า จะขออยู่ในป่าในเขาอย่างนี้ไปจนตาย

ด้วยความเป็นคนจริงเรื่องการทำบุญ รายได้ประจำตัวจากเบี้ยคนชราเดือนละ 500 บาท จึงมักหมดไปกับการทำบุญเสียทุกคราวที่ยายยิ้มไปวัด รวมไปถึงเงินที่ลูกหลานแบ่งไว้ให้ใช้ยามมาเยี่ยม ก็ร่อยหรอไปกับกิจกรรมในทางธรรมเช่นกัน โดยยามว่างยายยิ้มจะลงมือสร้างฝาย (คันกั้นน้ำ) เพื่อรักษาผืนป่าให้คงอยู่แบบธรรมชาติที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา ยายยิ้ม สามารถสร้างฝายจากสองมือได้ถึง 11 ฝายแล้ว และตั้งเป้าจะทำให้ถึง 14 ฝายด้วย

วิถีชีวิตกลางป่าแบบ ยายยิ้ม ใช่ว่าจะเป็นทางเดินไร้ทางเลือก หากแต่ ยายยิ้ม ได้ตัดสินใจสละความทุกข์ยากในสังคมเมืองอันวุ่นวาย หันหน้าสู่ธรรมชาติและสรรหาความสุขที่แท้จริง จนมีชีวิตในแบบ ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก...ชีวิตที่มีครบทุกสิ่ง...จะขาดก็เพียงแต่ ไม่รู้ว่า "ความทุกข์" หน้าตาเป็นอย่างไร

จากเรื่องราวชีวิตที่ถ่ายทอดผ่านตัวบุคคลทั้งหมดนี้ ต่างสะท้อนความรู้สึกหลากอารมณ์ ทั้งเศร้า ซึ้ง และประทับใจ ซึ่งไม่แน่ว่า อาจทำให้กำลังใจดี ๆ ก่อตัวขึ้นในใจของคุณ และสำรองไว้เป็นภูมิคุ้มกันความท้อแท้สิ้นหวัง เพื่อต้อนรับกับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนี้...


วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

25คำคมจาก ขงเบ้ง กุนซือแห่ง3ก๊ก

1. ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ่ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไรคุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น

2. เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาสเพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วยดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

3. นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ

4. ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด

5. ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด

6. ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น

7. ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี

8. ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย

9. เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว
เดินหมากรุกยังต้องคิดเดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร

10. เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิดท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขาเพราะถ้าท่านเป็นเขา และตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขาท่านอาจจะตัดส ินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้


11. การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น

12. ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่

13. ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่

14. ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่

15. อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น

16. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า "อาจจะ"

17. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า "ไม่"

18. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่"
เขาไม่ใช่นักการฑูตเพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใค ร)

19. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ"

20. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้"


21. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี.

22. สุภาพสตรีจะไม่ตอบรับใครง่าย ๆ

23. คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย

24. ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน

25. คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้นแต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วลีเด็ด

1. "ผมไม่ชอบช่วงเวลาแห่งการฝึกฝน แต่ผมจะบอกตัวเองว่า อย่าหยุดฝึก ทำต่อไปและใช้ชีวิตอย่างผู้ชนะ" มูฮัมหมัด อาลี

2. "คุณสามารถมีทุกอย่างที่คุณต้องการได้ ถ้าหากคุณลบล้างความคิดที่ว่าคุณไม่สามารถมีทุกอย่างได้" โรเบิร์ต แอนโธนี

3. "ไม่มีใครที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่ตัวเองคิด" เฮนรี่ ฟอร์ด

4. "ถ้า เอาพนักงานปอน ๆ ที่มีเป้าหมายในชีวิตมาให้ผมสักคน เขาจะกลับไปอย่างคนที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้ แต่ถ้าเอาคนที่ไร้เป้าหมายในชีวิตมาให้ เขาจะกลับไปอย่างพนักงานปอน ๆ" เจ ซี เพนนี่

5. "วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตก็คือ สร้างมัน" ดร. ฟอร์เรสท์ ซี แชคลี

6. "ชีวิตมันไม่ได้อยู่ที่เวลา แต่มันอยู่ที่การตัดสินใจ คุณตัดสินใจทำอะไรกับชีวิต" เบเวอร์ลี อดาโม

7. "ความ สำเร็จเกี่ยวเนื่องกับการกระทำ คนที่ประสบความสำเร็จจะเดินไปเรื่อย ๆ พวกเขาอาจจะสร้างความผิดพลาดหลายอย่างในชีวิต แต่พวกเขาไม่เคยหยุดเดิน" คอนราด ฮิลตัน

8. "มีคำถามหลายคำถามที่ทุกคนควรจะหาคำตอบ แต่ทำไมคุณไม่หาคำตอบเสียตอนนี้เลยล่ะ" ทิโมธี เฟอร์ริส

9. "นักฝัน คือ ผู้กอบกู้ของโลกใบนี้" เจมส์ อัลเลน

10. "โชคชะตาไม่ใช่เรื่องของโอกาส แต่เป็นเรื่องของการตัดสินใจ" ไม่ระบุชื่อ

11. "อนาคตจะอยู่กับคนที่เชื่อในความฝันอันงดงามของพวกเขา" เอเลียเนอร์ รูสเวลท์

12. "คุณภาพของชีวิตคนขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทางที่เราเลือกเดิน" วินเซ่ ลอมบาร์ดี

13. "จงกล้าหาญเพื่อเติบโต และเปิดเผยเพื่อเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง" อี อี คัมมิงส์

14. "ไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับสิ่งที่ฝัน" จอร์จ อีเลียต

15. "ผีเสื้อ หากไม่ขยับปีกบินให้มาก ๆ มันก็ไม่ต่างอะไรจากหนอน" ไทรนา พอลลัส

16. "ทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ก่อนในวันนี้ แต่อย่าปล่อยฝันที่คิดว่าจะทำไม่ได้ในวันพรุ่งนี้" จอห์น วูดเด้น

17. "ความผิดพลาดคือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่อย่างฉลาดขึ้น" เฮนรี่ ฟอร์ด

18. "อย่าพยายามเพื่อเป็นคนที่มีแต่ความสำเร็จ แต่จงพยายามเพื่อเป็นคนที่มีคุณค่า" อัลเบิร์ต ไอสไตน์

19. "ไม่มีสิ่งดี ๆ ใดที่สำเร็จได้โดยปราศจากคนดี ๆ และคนเราจะดีได้เมื่อเราตั้งใจเป็นคนดีเท่านั้น" ชาร์ลส์ เดอ กอลเล่

20. "จิตใจอยู่ในพื้นที่ของมัน และมันสามารถทำให้พื้นที่ของมันเป็นสวรรค์แห่งนรก หรือนรกแห่งสวรรค์ก็ได้" จอห์น มิลตัน

21. "คุณไม่อาจเก็บความจริงและเคลียร์วิสัยทัศน์ของทรัพย์สมบัติ ถ้าหากคุณมุ่งความสนใจไปที่รูปตรงข้าม" ชาร์ล เดอ โกล

22. "เรื่องดี ๆ ทุกเรื่องบนโลกใบนี้เกิดขึ้นเมื่อคนเราไม่ยอมแพ้ และเดินหน้าต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม" สไปรท์ โลริเอโน

23. "ป่าไม้หลายแห่งมีจุดเริ่มต้นมาจากเมล็ดพืชเมล็ดเดียว" รัลฟ์ วัลโด เอเมอร์สัน

24. "ความกล้าหาญของคน ๆ เดียว เป็นจุดเริ่มต้นของพลังมหาศาล" แอนดรูว์ แจ๊กสัน

25. "ความอ่อนแอในวันนี้ คือชีวิตของคุณในวันพรุ่งนี้" ไมค์ เมอร์ด็อค

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Love quote from Film Asia

Love quote from Film Asia


หลาย ๆ ครั้ง เราไปดูหนังเพราะคำโฆษณาว่าหนังเรื่องนั้น เรื่องนี้ ลงทุนสร้างไปมากมายแค่ไหน
บางครั้งเราไปเพราะนักวิจารณ์ บอกว่าดาราคนนั้นแสดงดี ผู้กำกับคนนี้มือรางวัล สำหรับฉันไปดูเพราะอยากดู แล้วก็สามารถดูซ้ำแล้วซ้ำอีกได้เรื่อย ๆ ถ้าหนังเรื่องนั้น มีประโยคเด็ดโดนใจ โชคดีที่มีผู้ที่ชอบประโยคเด็ด โดนใจจากในหนังเหมือนเรา ทำให้ได้มีแหล่งรวบรวมคำคมเหล่านั้นไว้ หลายต่อหลายครั้ง ที่เราได้รับแง่คิดดี ๆ ที่ปกติอาจจะไม่ค่อยได้นึกถึงจากประโยคเหล่านี้ และอีกหลายครั้งกว่า ที่เราได้ส่งมันไปให้กับเพื่อนเรา ประโยคที่ว่าเหล่านั้น ไม่เพียงแค่ทำให้ภาพยนตร์มีสีสันเท่านั้น หากแต่บางครั้ง บางเรื่อง และกับบางคน เราจดจำคำพูดประทับใจได้มากกว่าเนื้องเรื่องด้วยซ้ำ

คุณชอบประโยคน่ารัก ที่ทำให้หัวใจยิ้มได้เหล่านี้บ้างมั้ย


นอกจากที่รักคุณแล้ว ตัวผมไม่เก่งอะไรเลย

-The Classic-

เมื่ออาทิตย์สาดส่องบนท้องทะเล เมื่อนั้นผมคิดถึงคุณ

เมื่อจันทร์แรมสาดแสง ในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อนั้นผมคิดถึงคุณ
-The Classic-



ฉันไม่ได้รักใครง่ายๆอย่างที่นายคิดนะ

-โลกทั้งใบให้นายคนเดียว-

สักพักนึงของคนที่ต้องรอ..เวลามันมักจะเดินช้ากว่าปกติ

-กั๊กกะกาวน์-


ในโลกนี้มี 3 อย่างที่เราไม่สามารถโกหกได้ นั่นคือ ไอ ความยากจน แล้วก็ความรัก

ยิ่งปกปิดเท่าไหร่ เราก็ยิ่งจะเห็นได้ง่ายเท่านั้น

-IL Mare-

ธรรมชาติของความรัก มักไม่ให้โทษแก่ใคร

เพียงแต่อาจปรุงแต่งให้หัวใจพองฟู จนลืมนึกถึงความจริงที่ว่า

มีวันที่รักมา ก็อาจมีวันที่รักไปได้

-IL Mare-

ที่เราต้องเจ็บปวดกับความรัก

ไม่ใช่เพราะมันจากไปหรอก

หากแต่เพราะมันยังคงอยู่ต่างหาก
-IL Mare-



1 ปี, 3 ปีหรือ 5 ปี จากนี้ไป เราจะเป็นอย่างไร

เราจะเป็นอะไรกันแน่ เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ อาจเป็นครู... เป็นแม่คน...

และถึงแม้ ฉันจะมองไม่เห็นว่าตัวฉันเป็นเช่นไร

แต่เวลาที่ฉันหลับตาลงครั้งใด ฉันก็จะเห็นเธออยู่ในความทรงจำตลอดไป
-Blue Gate Crossing-


เมื่อไหร่ที่คุณได้ยินเสียงผมกระซิบอยู่ในสายลม

คุณก็จะได้พบใครบางคนที่มีวิญญาณเหมือนกับผม

-WindStruck-


อาการอย่างนี้ ที่ดาวอังคารผมไม่รู้หรอกว่าเขาเรียกว่าอะไร
แต่ที่โลกเขาเรียกว่า...ความรัก
-Luandry-


เมื่อคุณแหงนหน้ามองฟ้าและเอื้อมมือไปเพื่อจะคว้าดาว

ถึงแม้...อาจจะไม่มีดาวซักดวงติดมือมาอย่างที่ต้องการ

แต่ขอให้รู้เถอะว่า...สิ่งที่คว้าได้ ยังไงซะก็ไม่ใช่ ดิน
-My Little Bride-


ถ้าเลือกเกิดได้ อยากเกิดเป็นต้นไม้

จะได้หยั่งรากลึกอยู่กับสิ่งที่รัก

ไม่ต้องย้ายจากสิ่งที่รักไปไหน
-Autumn in My Heart-


ถ้าความรักคือการดูแลกัน

ฉันอยากให้เธอกลับไปดูแลเขา

ส่วนฉันจะดูแลเธอเอง
-FullHouse-



วันเกิดของเธอ 3 พ.ย.ใช่ไหม?

แต่วันเกิดของฉันคือวันที่ 28 ต.ค.....

เธอเองก็ยังไม่มีเลยซักวินาทีนับตั้งแต่ลืมตาดูโลกที่ไม่มีฉันอยู่

-Crying out love in the center of the world-


หากวันหนึ่งเธอมองไปแล้วไม่เห็นฉัน อย่าตกใจ

เพราะฉันไม่ได้หายไปไหน ฉันอยู่ในตัวของเธอไง เธอจึงมองไม่เห็นฉัน

ขาของเธอคือขาของฉัน ตัวของเธอคือตัวของฉัน

ไม่ว่าจะที่ไหน ฉันอยู่กับเธอเสมอ
-Crying out love in the center of the world-



ฉันมีความสุขมากจริงๆนะ มีความสุขมาตลอด

ตั้งแต่ที่ได้รักกับคุณ คุณคือความสุขของฉัน
การได้อยู่กับคุณ คือ ความสุขทั้งหมดที่ฉันต้องการ

มันเป็นความสุขที่ฉันไม่ยอมแลกกับอะไรทั้งสิ้น
-Be With You-


การให้อภัย...คือการแบ่งห้องว่างในหัวใจคุณสักนิดให้กับความเกลียด

-A moment To remember-


ฉันไม่ต้องจดจำคุณหรอก เพราะคุณคือส่วนหนึ่งในตัวฉัน

ฉันอาจลืมคุณไป แต่ไม่มีสิ่งใดจะผลักไสคุณไปจากตัวฉันได้
-A moment To remember-


ว่ากันว่า...ความรักนำพาเพียงหนึ่งความสุขมาให้

แต่นำความทรมานนับพัน

ฉันเลือกที่จะปลดปล่อยตัวฉันจากหมื่นพันความทรมานนั้น

ดีกว่าจะเพลิดเพลินไปกับเพียงหนึ่งความสุขใจ
-My boyfriend is Type B-


ถ้าชีวิตฉันเหลือแค่วันเดียว สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุด คือการได้อยู่กับเธอ
Sad love Story


จงรักแบบไม่เคยเจ็บปวดมาก่อน

จงเต้นรำเหมือนไม่มีใครมองเรา

จงร้องเพลงเหมือนไม่มีใครได้ยินเรา

จงทำงานเหมือนเราไม่ต้องการเงินจากมัน

จงอยู่เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของโลก
-My name is Kim Samsoon-


ความหนาวเย็นถ้ามันไม่ได้อยู่ที่เท้าล่ะก็ มันก็จะมาอยู่ที่หัวใจ
-Heaven's tree-

ฉัน เกิดก่อนเธอหมายความว่าฉันได้มารอเธอในชาตินี้ก่อน และ ฉันจากไปก่อนเธอเพื่อไปรอเธอในชาติหน้าต่อไป แต่เธอไม่ต้องรีบมาหรอก ใช้ชีวิตในชาตินี้ก่อนตามเท่าที่เธอต้องการ แล้วฉันจะรอเธอ
My Girl&I


สำหรับผมแล้ว ทุกสิ่งย่อมมีวันจืดจาง ไม่เว้นแม้แต่ความรัก

เหมือนกับภาพถ่ายของวันเวลาเก่าๆ

แต่คุณต่างออกไป คุณคือแสงสว่างสุดท้ายในใจผม

ผมรู้ว่าคุณหวังดีกับผมมาตลอด

แต่ผมไม่สามารถรับไว้ได้

ได้แต่เพียงขอบคุณเท่านั้น...
-Christmas in August-


เป็นเมียพี่ต้องอดทน : แดงไบเล่ย์

-2499อันธพาลครองเมือง-

แม้ฉันจะตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อุ่นใจ ที่ฉันตายโดยมีคนที่ฉันรัก
-ข้างหลังภาพ-

เอาผมไปฆ่าให้ตาย ผมก็ยังรักคุณ
- มหาลัย’เหมืองแร่-

คงเป็นเพราะการมีชีวิตอยู่ เป็นความทุกข์อันยาวนานชนิดหนึ่ง
มนุษย์จึงต้องแสวงหาความสุข ตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต
-ฟ้าทะลายโจร-

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

ความแตกต่างที่หลายคนมองผ่าน...

ความแตกต่างที่หลายคนมองผ่าน...

หนูน้อยยืนอยู่ที่ข้างสระ ...
วันนี้วิชาพละต้องเรียนว่ายน้ำ
คุณแม่บอกลูกอยากเก่งต้องพยายาม
แต่หนูอยากอยู่เฉยๆ บ้าง ไม่ต้องวุ่นวาย

พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนคณิต
วันอาทิตย์ต้องไปเรียนดนตรีตอนสาย
ถึงอยู่บ้านก็คงน่าเบื่อมากมาย
ก็คุณพ่อ คุณแม่หาย ไม่เห็นเงา

มองเห็นเด็กคนหนึ่งอยู่ข้างนอก
ท่าทางน่าสนุกไม่เบาหรอกชีวิตเขา
อิสระมากมายกว่าตัวเรา
อย่างน้อยเขามีพ่ออยู่ยืนคู่กัน


หนูน้อยอีกคนยืนอยู่ที่ข้างสระ ...
พ่อจ๊ะวันนี้มีคนมาว่ายน้ำ
หนูอยากว่ายบ้าง แต่ได้แค่มองตาม
ทำไมเราจึงไม่มีอย่างที่เขาเป็น

วันนี้พ่อจะไปขยะกองไหนต่อ
ด้านหลังนู้นยังมากพอ หนูเห็น
เก็บแต่เช้ากว่าจะหมดคงจรดเย็น
ค่ำๆ นี้คงได้เห็นเป็นอาหารมื้อดี

แล้วหันหลังกลับมองคนในสระ
เขาคงเรียนพละกันใช่ไหมวิชานี้
น่าอิจฉาน้ำในสระคงใสไหลเย็นดี
หนูไม่มีสักวิชา จะหาเรียน ...


"ท่านยิ่งใหญ่แล้วหรือ ต่ำต้อยที่สุดแล้วหรือ
เปล่าเลย ยังมีคนที่ยิ่งใหญ่กว่าท่าน และต่ำต้อยกว่าท่านอีกมากมายนัก..."

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

very lovely thing

เช้าวันหนึ่ง..ที่โรงพยาบาล...

"ขอให้ชั้นดูหน้าลูกหน่อย..ได้มั๊ยคะ"
คุณแม่คนใหม่เอ่ยขึ้น..

เมื่อห่อผ้าน้อย ๆ ..อยู่ในอ้อมกอดเธอ เธอค่อย ๆ คลี่ผ้าที่ห่อออก..
เพื่อมองใบหน้าเล็ก ๆ ..

กรี๊ดดดด.....เธอกรีดร้อง
หมอต้องอุ้มเด็ก..ออกไปอย่างรวดเร็ว

**เด็กทารกที่เกิดมา...ไม่มีใบหู**

และแล้ว....กาลเวลาพิสูจน์ว่า.... การได้ยินของเจ้าหนู..ไม่มีปัญหา

ปัญหา..มีเฉพาะสิ่งที่มองเห็นภายนอก คือ....ใบหูที่หายไป

หลายครั้ง..ที่เจ้าหนูกลับจากโรงเรียน แล้ววิ่งมาบอกแม่

เธอรู้ว่า..หัวใจลูกปวดร้าวแค่ไหน...
เจ้าหนูพูดโพล่งออกมา..อย่างน่าเศร้า
"พวกเด็กตัวโต ..พวกมันล้อผมว่า
..
--ไอ้ตัวประหลาด--"

จนกระทั่ง.... เจ้าหนูเติบโตขึ้น..หล่อเหลา.. เป็นที่รักของเพื่อน ๆ..
เค้ามีพรสวรรค์ ในด้านอักษรศาสตร์.. วรรณคดี..และดนตรี..
เค้าอาจได้เป็นหัวหน้าชั้น
...

แต่เพราะเจ้าสิ่งนั้น... ทำให้เค้า..ไม่อยากเจอใคร

"ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะลูก" แม่กล่าว..ด้วยความสงสารลูก

พ่อของเด็กชาย.. ปรึกษากับหมอประจำครอบครัว
และได้รับข่าวดีจากหมอว่า...
"ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูได้ครับ ถ้ามีผู้บริจาค..แต่ใครล่ะ..
จะเสียสละใบหู..เพื่อเด็กน้อยคนนี้" คุณหมอกล่าว

จนกระทั่ง ...2 ปีผ่านไป พ่อบอกกับลูกชาย..
"ลูกเตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ พ่อกับแม่..หาคนบริจาคใบหู

ที่ลูกต้องการได้แล้ว...
แต่นี่เป็นความลับ"


การผ่าตัด..สำเร็จด้วยดี และแล้ว...คนคนใหม่ก็เกิดขึ้น..

....เค้ากลายเป็น..ผู้มีพรสวรรค์...
เป็นอัจฉริยะในโรงเรียน...ในวิทยาลัย
จนเป็นที่กล่าวขานกัน..รุ่นต่อรุ่น

ต่อมาได้แต่งงาน... และทำงาน.. เป็นข้าราชการในสถานทูต

วันหนึ่ง.. ชายหนุ่มถามผู้เป็นพ่อว่า.

"พ่อครับ.. ใครเป็นคนมอบใบหูให้ผมมา ใครช่างให้ผมได้มากมาย..
แต่ผมไม่เคยทำอะไร.. เพื่อเค้าได้เลยสักนิด"

"พ่อไม่เชื่อว่า.. ลูกจะตอบแทนเค้าได้หมดหรอก.
เรื่องนี้...เป็นความลับ เราตกลงกันแล้ว"
พ่อตอบ..

หลายปีผ่านไป....
มันยังคงเป็นความลับ

และแล้ว..วันนึง..วันที่มืดมิดที่สุด.. ผ่านเข้ามา..ในชีวิตของลูกชาย


แม่เค้าได้เสียชีวิตลง.

เค้ายืนข้าง ๆ พ่อ... ใกล้หีบศพของแม่

พ่อเรียกเค้า..
"มานี่สิลูก..มานั่งใกล้ ๆ นี่"
พ่อลูบผมแม่อย่างช้า ๆ..และนุ่มนวล

ผมสีน้ำตาลแดง..ถูกเสยขึ้น จนมองเห็นใบหน้า..
ที่มองดูเหมือนคนนอนหลับ

...และแล้ว.. สิ่งที่ทำให้ลูกชาย..ถึงกับต้องตะลึง..
...ใบหูของแม่...หายไป!..

แม่ไม่มีใบหู...
"นี่เป็นคำตอบ.. ที่ลูกอยากรู้มาตลอดชีวิต"..
พ่อกระซิบผ่านลูกชาย

"แม่บอกพ่อว่า..เธอดีใจ... ที่ได้ทำอย่างนี้..ตั้งแต่วันผ่าตัด..

แม่ไม่เคยตัดผมอีกเลย..
ไม่มีใคร..มองเห็นว่า.. เธอไม่สวยจริงมั๊ย?
- - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - -

จงจำไว้..

~สิ่งมีค่า...ที่แท้จริง~
ไม่ได้อยู่ที่..การมองเห็น.. หากแต่อยู่ที่..
~สิ่งที่เรา..มองไม่เห็น~
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ความรัก..ที่แท้จริง~

ไม่ได้อยู่ที่.. เราได้ทำอะไร.. แล้วมีคน..รับรู้..

หากแต่อยู่ที่.. สิ่งที่เรา..กระทำ..แล้วไม่มีใคร..รับรู้ ..
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

~ความรัก~

บางครั้ง.. ไม่จำเป็น.. ต้องพูดพร่ำเพรื่อ..

หากแต่อยู่ที่....การกระทำ. ซึ่งเรา..อาจรับรู้..

เพียงแค่..ฝ่ายเดียว..

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


อ่านจบแล้ว..ใช้สมอง..ตรึกตรองสักนิด..

ถ้าพรุ่งนี้..เราตายไป..

บริษัท..
สามารถหาคนมาแทนเราได้
ภายในไม่กี่วัน..

แต่ครอบครัวเรา..
ต้องสูญเสีย..
และคิดถึงเรา..ไปตลอด

เราได้ใช้ชีวิต..กับการทำงาน
มากกว่าครอบครัว..หรือเปล่า?

ถ้ามากกว่า...
ก็เป็นการลงทุน..
ที่ไม่ฉลาดเลยจริง ๆ..

[ ส่งต่อเรื่องดีๆมาจาก.. คุณอรพรรณ ศรีวิชัย นักศึกษาปริญญาเอก

มหาวิทยาลัยมหิดล]

ปรัชญาเต๋า


วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

KEEP WALKING‏

ไม่กล้า ก็ไม่มีวันเดินหน้า
Nothing ventured, nothing gained.
วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์

เพียงเมื่อท่านหยุดก้าว ท่านก็เริ่มถอยหลังแล้ว
When you stop advancing, you've already begun to retreat.
ดร.เทียม โชควัฒนา

คนเราไม่มีใครล้มเหลว มีแต่ล้มเลิกต่างหาก
There are no failures, only people who have given up.
นิรนาม

ผมยอมไม่ได้ ถ้าไม่ยอมพยายาม
I can't accept not trying.
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ผมเป็นคนเดินช้า แต่ผมไม่เคยเดินถอยหลัง
I am a slow walker, but I never walk backwards.
อับราฮัม ลินคอล์น

โลกทั้งโลกเปิดทางให้กับคนที่รู้ว่าตัวเองจะเดินไปทางไหน
The whole world steps aside for the man who knows where he is going.
นิรนาม

หนทางไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรก
A joumey of a thousand miles must begin with a single step.
เล่าจื๊อ

อย่ากลัวที่จะก้าวไปช้า ๆ จงกลัวที่จะอยู่นิ่งเฉย
Do not be afraid of going slowly, be afraid only of standing still.
ภาษิตจีน

ถ้าไม่หาทาง ก็ต้องสร้างมันขึ้นมา
We will either find a way or make one.
ฮานิบาล

อย่าคิดว่าคุณจะเดิน เดินไปเลย
Don't just think you'll walk, WALK.
ปรเมศวร์ มินศิริ

คนเราแก้อดีตไม่ได้ แต่อาจเปลี่ยนอนาคตได้
We can't correct the past, But we might change the future.
วรินทร์ เลียววาริณ

การเริ่มต้นเป็นเรื่องยาก แต่การก้าวต่อไปเป็นเรื่องยากกว่า
Getting started is hard, but the next step is harder.
ถกลเกียรติ วีรวรรณ

คำว่า ดีที่สุด มีไว้สำหรับงานต่อไปเสมอ
The word 'Best' is always there for the next start.
ดวงฤทธิ์ บุนนาค

อย่ากลัวล้มทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มเดิน
Don't think that you're gonna lose when you don't even start
ณัฐจิระ ฮอนดา

ความผิดพลาดในอดีต คือบทเรียนสำหรับในอตาคต
The falling of yesterday are the learning of tommorrow.
โรเบอร์โต บักจิโอ

แม้แต่ปลา ต้องว่ายทวนน้ำเพื่ออยู่รอด
Fish swim against the tide to survive.
นักปราชญ์

ถ้าไม่ใช่คุณแล้วใคร ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวนี้แล้วเมื่อไหร่
If not you who? If not now when?
แกรี่ เฮอร์เบิร์ท

ทางเดียวที่จะถึงเส้นชัย คือก้าวต่อไปข้างหน้า
The only way to reach the goal is moving forward.
นักกีฬาสมัครเล่น

คว้าทุกโอกาสให้ได้
Seize the day.
โฮเรซ

ผมไปได้ทุกที่ ขอเพียงแต่ต้องไปข้างหน้า
I'll go anywhere as long as it's forward.
ดร.ลิฟวิ่งสโตน

อย่ากลัวที่จะก้าวยาว ๆ เมื่อต้องข้ามอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่
Don't be afraid to take a big step…you can't cross a chasm in two small jumps.
เดวิด ลอยด์ จอร์จ

ความใฝ่ฝัน ไม่เคยหยุดยั้ง
Ambition never comes to an end.
โยชิดะ เคนโกะ

ความเสี่ยงที่สุด คือการไม่กล้าเสี่ยงเลย
The biggest risk is not to take the risk at all.
ราอูล กราเซีย บราโว

จับจ้องที่จุดหมาย ไม่ใช่ที่อุปสรรค
One should keep one's eyes on one's destination, not on where one stumbled.
สุภาษิตไนจีเรีย

ความล้มเหลวที่สุด คือการไม่กล้าแม้แต่จะลองทำ
เซอเรน คีร์เคอกอร์

ถ้าเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีรอยเท้าเป็นของตนเอง
To dare is to lose one's footing momentarily. Not to dare is to lose oneself.
มูลเรลสตรอด

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553