วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เหตุการณ์บังเอิญที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต

ผมกำลังเดินอยู่บนถนนท่ามกลางแสงไฟสลัวในช่วงโพล้เพล้ของวันหนึ่ง
พลันได้ยินเสียงร้องอู้อี้เหมือนถูก ผ้าอุดปากดังออกมาจากหลังพงไม้

อารามตกใจ ผม ชะลอฝีเท้าเพื่อฟัง และรู้สึกตื่นตระหนก เมื่อรู้ว่าเสียงที่ผมได้ยินคือเสียงการต่อสู้กันอย่างแน่นอน มีทั้งเสียงตะคอก และเสียงเสื้อผ้าฉีกขาด

มีหญิงกำลังถูกทำร้าย ห่างจากจุดที่ผมยืนไม่กี่เมตร
ผมควรเข้าไปยุ่งดีหรือเปล่า ผมรู้สึกหวั่นกับสวัสดิภาพของตัวเอง
และนึกตำหนิตัวเองที่ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้านใหม่กะทันหัน


ผมควรจะเข้าไปช่วยหรือแค่วิ่งไปยังโทรศัพท์เครื่องที่ใกล้ที่สุด
เพื่อโทรแจ้งตำรวจ


.......เสียงร้องของเด็กผู้หญิงเริ่มเบาลง
ผมรู้ทันทีว่าจะต้องรีบทำอะไรสักอย่าง

ผมจะเดินหนีเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างไร
เอาล่ะ
...ผมตัดสินใจได้แล้ว ผมไม่อาจหันหลังให้กับชะตาของผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนนี้ได้
แม้มันหมายถึง การเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง
ผมไม่ใช่คนกล้า และไม่ใช่นักกีฬา

ผมไม่รู้ว่าความกล้าและพละกำลังในตัวนั้นมาจากไหน
แต่ทันทีที่ตัดสินใจช่วยเธอ ผมดูเหมือนจะเปลี่ยนไป

ผมวิ่งไปหลังพุ่มไม ้และดึงเจ้าวายร้ายออกมาจากร่างของหญิงสาว เราต่อสู้กันจนกลิ้งไปกับพื้นทั้งคู่ และปล้ำสู้กันอยู่สักพักหนึ่ง
ในที่สุดเจ้าตัวร้ายก็ลุกขึ้นและวิ่งหนีไป

ผมหอบฮักๆ และพยายามตะเกียกตะกาย ไปหาเด็กผู้หญิง ซึ่งนอนหมอบ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หลังต้นไม้ท่ามกลางความมืด
ผมแทบไม่เห็นตัวเธอเลย แต่มีความรู้สึกว่าเธอต้องกำลังตกใจกลัวจนตัวสั่นอยู่แน่นอน
ด้วยไม่อยากจะให้เธอตกใจมากไปกว่านี้
ผมจึงพูดกับเธอในระยะไกลๆ 'ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว' ผมปลอบ

'มันวิ่งหนีไปแล้ว คุณปลอดภัยแล้วตอนนี้'

……..เธอเงียบไปสักพัก
แล้วผมก็ได้ยินเธอเปล่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ
'พ่อคะ นั่นพ่อเหรอคะ'
แล้วผู้ที่ก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ก็คือ แคเธอรีน ลูกสาวคนเล็กของผมเอง ...

จะเกิดอะไรขึ้น หากชายผู้นี้ลังเลที่จะไม่ช่วยเด็กหญิงที่กำลังถูกทำร้าย ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ก็คือลูกของตัวเอง ???

(จากหนังสือที่รวบรวมเหตุการณ์บังเอิญที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต
และติดอันดับ best seller ในสหรัฐฯ)

** ต่อไปคุณคงจะไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือคนแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น